Opp Today : JWD 3Q2017 (16 พฤศจิกายน 2561)
สรุปคร่าวกับงาน Opportunities Day หุ้น JWD
November 16, 2017, พิมพ์ฝัน เจียรพิพัฒนกุล
สรุปคร่าวๆจาก JWD Opportunity day ล่าสุด Q3/2017
1. ธุรกิจ LCL (Less than container load) ที่ได้ใบอนุญาติการให้บริการมาแล้วตอนนี้ยังมีลูกค้าไม่มาก แต่Q4/2017 และ Q1/2018 น่าจะสามารถเรียกลูกค้าให้ลองเข้ามาใช้บริการได้เยอะขึ้น ธุรกิจนี้เป็นการให้บริการผู้ที่ต้องการใช้พื้นที่ตู้คอนเทนเนอร์แบบไม่เต็มตู้ JWD จะให้บริการจัดสรรพื้นของหลายๆเจ้ารวมกันเข้าไปในแต่ละตู้คอนเทนเนอร์ให้เต็ม
2. ในปีที่แล้วที่คลังสินค้าทั่วไปสัญญาการให้บริการลูกค้าหมดอายุไปแล้วลูกค้าไม่ได้ต่อ ในตอนนี้ได้ลูกค้าใหม่มาเรียบร้อยแล้ว
3. Cold Storage ในตอนนี้มี Occupancy rate ที่ดีมากสูงกว่าในปี 2015
4. Solar roof top ทั้ง เฟส 1 และเฟส 2 เสร็จแล้ว สามารถช่วยประหยัดค่าไฟได้ 1.1 ล้านบาทต่อเดือน
5. การให้บริการแบบ Cross border ข้ามชายแดนไทยพม่ามีการเติบโตมาก
6. ตอนนี้บริษัทกำลังคิดเรื่องธุรกิจเกี่ยวกับ ท่าแม่น้ำ/ท่าเรือคอนเทนเนอร์/ท่าเรือชายฝั่ง โดย JWD มองตัวเองอยากเป็น One Stop Solution ให้กับลูกค้า
7. JWD เพิ่งซื้อกิจการทั้งหมดของ Ocean Air International ซึ่งเป็นบริษัทที่จะช่วยให้เกิด Synergy กับ JWD group ในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการขนส่ง การเข้าถึงลูกค้าในต่างประเทศ การทำพิธีทางกรมศุล การได้ส่วนแบ่งตู้สินค้ามาจัดการ
8. ปีหน้าประมาณเดือนเมษายน จะเปิดให้บริการธุรกิจใหม่ที่ได้วางแผนมา 2 ปี คือ ธุรกิจSelf Storage มีพื้นที่การให้บริการ 12,100 ตร.ม. ซึ่งได้มีการร่วมมือกับบริษัทในฮ่องกงกับสิงคโปร์ที่มีโมเดลการทำธุรกิจ Self Storage อยู่แล้ว ล่าสุดบริษัทได้เช่าพื้นที่ที่จะเป็น Strategic location ไว้ 2 ที่เป็นที่เรียบร้อยแล้วได้แก่ บริเวณสาทรและสามย่าน
รู้จัก JWD ใน 3 นาที
คร่าวๆ เกี่ยวกับ JWD
JWD เป็นบริษัทที่เข้าตลาดมาตั้งแต่ปี 2015 มาถึงวันนี้ผ่านมา 2 ปีแล้ว JWD เป็นบริษัทที่มีพัฒนาการที่โดดเด่นในเรื่องธุรกิจที่ไม่เหมือนใครทั้งในเรื่องการให้บริการที่แตกต่างและสามารถทำอัตรากำไรขั้นต้นในระดับสูงประมาณ 28-35% และอัตราการทำกำไร ช่วง 6-14% ตั้งแต่เข้ามาในตลาด ซึ่งอัตรานี้เป็นอัตราที่ถือว่าสูงเมื่อเทียบกับบริษัทอื่นๆที่ทำธุรกิจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ที่มักจะมีอัตราการทำกำไรที่บางมาก
ธุรกิจหลักของ JWD ในปัจจุบันมี 4 ธุรกิจหลักได้แกj
1. Warehouse & Yard Management สัดส่วนรายได้ 70%
2. Transportation & Distribution สัดส่วนรายได้ 16%
3. Relocation & Freight Forwarding สัดส่วนรายได้ 9%
4. Record & Info Management สัดส่วนรายได้ 4%
กลุ่มลูกค้า
กลุ่มลูกค้าหลักของบริษัทส่วนใหญ่เป็น ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายสินค้าที่ต้องมีการ ส่งออก/นำเข้าเป็นประจำ จึงทำให้พื้นที่ที่ให้บริการของ JWD ที่ตั้งอยู่ที่ท่าเรือแหลมฉบังเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่ช่วยทำให้บริการลูกค้าได้สะดวกและมีประสิทธิภาพ ลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทอยู่ในอุตสาหกรรม ยางรถยนต์ รถยนต์ สินค้าอุปโภคบริโภค นำเข้าแร่ และธุรกิจให้บริการด้านการขนส่ง
ความเชี่ยวชาญ
บริษัทเชี่ยวชาญหลายด้าน แต่เราลองมาพูดถึง Warehouse & Yard Management ของบริษัทที่คิดเป็นสัดส่วนมากถึง 70% ของบริษัท ซึ่งสามารถแบ่งออกมาได้เป็นอีก 4 หน่วยธุรกิจคือ
1. General Goods
2. Dangerous goods
3. Automotive และ
4. Cold Chain
ซึ่งรายได้จากการให้บริการบริหารคลังสินค้านั้นจะเกี่ยวข้องกับการรับฝากสินค้าของลูกค้าไว้ในคลังแล้วจึงคิดค่าบริการตามพื้นที่การใช้งานต่อตารางเมตร หรือตามปริมาณน้ำหนักของสินค้าที่ฝากวาง จุดเด่นของคลังสินค้า JWD คือมีระบบ Warehouse Management System (WMS) ที่พัฒนาขึ้นมาเองที่ทำให้ทั้ง JWD และลูกค้าสามารถตรวจสอบได้ทันทีว่าล่าสุดสินค้าอยู่ที่ไหน จึงทำให้ช่วยในการจัดการการขนส่งและลดความผิดพลาดในการบริหารคลังได้
ในการบริหารจัดการสินค้าอันตราย JWD เป็นบริษัทเดียวที่ได้รับสัมปทานจากการท่าเรือซึ่งทำให้ JWD สามารถจัดการเกี่ยวกับสินค้าอันตรายได้ ความหมายคือถ้าบริษัทใดๆในประเทศไทยต้องการนำเข้า/ส่งออก หรือเก็บเข้าคลัง ก็ต้องมาใช้บริการกับ JWD ตรงนี้จึงทำให้เป็นจุดแข็งที่สำคัญ แต่เราก็จำเป็นต้องติดตามเรื่องการต่ออายุสัมปทานให้ดี
สำหรับการบริหารพื้นที่เกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายรถยนต์ JWD มีหลายบริการที่มีให้กับลูกค้าที่มีความต้องการนำเข้า/ส่งออกรถยนต์ รายได้จากธุรกิจนี้นี้คือพื้นที่ที่ให้บริการจอดรถยนต์ที่เตรียมไว้เพื่อนำเข้า/ส่งออก และการให้บริการด้านการรับรถยนต์ ทำความสะอาดรถยนต์ ตรวจสอบรถยนต์และนำส่งรถยนต์ไปยังที่หมาย วิธีการคิดค่าบริการคือคิดตามพื้นที่ที่ใช้จอดรถยนต์จริงหรือตามขนาดและจำนวนของรถยนต์โดยจะคิดค่าบริการเป็นรายเดือน
คู่แข่ง
ในหน่วยของคลังสินค้าทั่วและคลังสินค้าปลอดภาษี คู่แข่งหลักของ JWD คือ Kerry Logistics และ Yusen Logistics แต่ข้อได้เปรียบของ JWD คือตั้งอยู่ในท่าเรือแหลมฉบังที่เป็นจุดขึ้น/ลงของสินค้า เมื่อเทียบกับบริษัทอื่นที่อยู่ไกลออกไป
ภาพประกอบจาก http://www.dcs-digital.com/setweb/odm/NDU5MA