ส่องกองทุนเด่น 2017 (20 ตุลาคม 2560)
มาดูกันกองทุนไหนโดดเด่นกว่าใครเพื่อน
October 20, 2017, พิมพ์ฝัน เจียรพิพัฒนกุล
ผ่านมาแล้ว 10 เดือน ถ้าลองเอา %YTD Performance ของแต่ละกองทุนมาเรียงลำดับ สังเกตเห็นว่า กองทุนที่บริหารโดย บลจ.กรุงศรีในปีนี้โดดเด่นกว่าใครเพื่อน ไม่ว่าจะเป็น กองทุนรวมหุ้นไทยทั่วไป / กองทุนรวมหุ้นไทย LTF / และกองทุนรวมหุ้นไทย RMF วันนี้เราไม่ได้มาเชียร์กองทุนใดกองทุนหนึ่ง เพียงแต่อยากพานักลงทุนมาดูว่าที่ผ่านมาเขาเลือกหุ้นอะไรเข้ากองทุนเหล่านี้กันบ้าง และหุ้นที่เลือกนั้น อยากให้สังเกตุดูว่ามีความเชื่อมโยงกับกองทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงๆอย่างไร
กองทุนรวมหุ้นไทย “ทั่วไป”
ในส่วนของ 10 อันดับแรก %YTD Performance นั้น เป็นของ บลจ. กรุงศรี ไป 7 กอง ได้แก่
1. KFDYNAMIC – กองทุนเปิดกรุงศรี หุ้นไดนามิค
2. KFDNM-D – กองทุนเปิดกรุงศรี หุ้นไดนามิคปันผล
3. KFFIN-D – กองทุนเปิดกรุงศรีไฟแนนเชี่ยลโฟกัสปันผล
4. KFTHAISM – กองทุนเปิดกรุงศรีไทยสมอล-มิดแคปอิควิตี้
5. KFSEQ – กองทุนเปิดกรุงศรีอิควิตี้
6. KFSEQ-D – กองทุนเปิดกรุงศรีอิควิตี้ปันผล
7. KFTW5 – กองทุนเปิดกรุงศรีทุนทวี
สังเกตได้ว่า 3 กองทุนอันดับแรก (ตามในตาราง) บลจ. กรุงศรี เน้นลงทุนในหุ้น TCAP WORK RS THANI ในขณะที่ กอง KFTHAISM เน้นลงทุนในหุ้นกลางถึงเล็ก ก็จะลงในหุ้นที่แปลกกว่ากองอื่นหน่อย ได้แก่ AAV MAJOR SAWAD AP THANI และ 3 อันดับสุดท้ายเห็นได้ชัด 5 อันดับแรกว่าเน้นลงทุนเหมือนๆ กันใน BEAUTY SAWAD SCB AOT และ RS เรามาดูกันว่า นโยบายของทั้ง 6 กองนี้เขียนไว้อย่างไรบ้าง
2 กองเน้นลงทุนในหุ้น 65% - 75%
KFDYNAMIC – เน้นลงทุนในตราสารแห่งทุนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือสามารถลงทุนในทรัพย์สินหรือการ หาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด
KFDNM-D ลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารแห่งทุนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม โดยเน้นการกระจายการลงทุนในหุ้นทุนที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และมีแนวโน้มการเติบโตในอัตราสูง ส่วนที่เหลืออาจนำไปลงทุนในตราสารแห่งหนี้ และหรือตราสารทางการเงินอื่น
กองนี้เน้นลงทุนหุ้นเกี่ยวกับการเงิน
KFFIN-D – กองทุนจะนำเงินลงทุนไปลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารแห่งทุนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม โดยเน้นการลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทตราสารแห่งทุนของบริษัทที่จัดอยู่ในภาคธุรกิจประเภทสถาบันการเงิน และ/หรือธนาคารพาณิชย์ ส่วนที่เหลืออาจนำไปลงทุนในตราสารแห่งหนี้ ตราสารทางการเงินอื่นๆ และหรือเงินฝากรวมทั้งลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด
กองนี้เน้นหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก
KFTHAISM – ลงทุนในตราสารแห่งทุนของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ/หรือตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ โดยเน้นลงทุนในตราสารแห่งทุนของบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็ก โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
กองนี้มีกำหนดระยะเวลาลงทุนเป็นกลาง ถึง ยาว
KFSEQ – เน้นการลงทุนระยะปานกลางและระยะยาวในหลักทรัพย์ของบริษัทที่มีแนวโน้มการเติบโตทางธุรกิจสูงหรือมีปัจจัยพื้นฐานดี โดยจะลงทุนในหลักทรัพย์ที่จด ทะเบียนและมีแนวโน้มที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในสัดส่วนอย่างน้อยร้อยละ 75 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยอย่างน้อย ร้อยละ 50 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนจะลงทุนในหุ้นทุนของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และส่วนที่เหลือจะลงทุนในประเภท ของหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่น ในสัดส่วนที่เหมาะสมของแต่ละช่วงเวลา
กองนี้เน้นลงทุนหุ้นจดทะเบียนและมีแนวโน้มที่จะเข้าจดทะเบียนใน ตลท.
KFSEQ-D – เน้นลงทุนในหุ้นจดทะเบียนและมีแนวโน้มที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในสัดส่วนอย่างน้อยร้อยละ 75 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของ กองทุน โดยอย่างน้อยร้อยละ 50 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนจะลงทุนในหุ้นทุนของบริษัทจดทะเบียนฯ
กองนี้ระบุว่านอกจากลงหุ้น เงินฝาก ตราสารหนี้แล้วก็อาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าได้ด้วย
KFTW5 – ลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน เงินลงทุนส่วนที่เหลือ บริษัทจัดการสามารถลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารทุน ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน ตราสารหนี้หรือเงินฝาก หรือหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนดให้ลงทุนได้ ทั้งนี้ อาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) โดยต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.
จะเห็นว่า นโยบายการลงทุนของแต่ละกองทุนก็จะมีนโยบายที่แตกต่างกันในรายละเอียดปลีกย่อย และในขณะที่ SET ทะยานเข้าสู่ระดับ 1,700 จุด กองทุนที่เน้นถือหุ้นที่มีพื้นฐานดีและมีแนวโน้มการเติบโตสูงในปีนี้ ก็สามารถสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนได้อย่างน่าพอใจดังเช่นในตารางด้านบน
ถัดจากกองทุนทั่วไป ถ้าไม่พูดถึงประเภทกองทุนที่นักลงทุนและบุคคลทั่วไปต่างก็ต้องให้ความสำคัญก็คงจะไม่ใช่การส่องกองทุนที่หลายๆคนคาดจะได้เห็น ดังนั้นเราก็เลยรวบรวมผลตอบแทนจากกองทุนในกลุ่ม LTF และ RMF มาให้ดูกันด้วย ซึ่งผลตอบแทนในปีนี้ต้องบอกว่านอกจากคนที่ได้สิทธิ์ลดหย่อนไปก่อนหน้านี้แล้ว ยังได้กำไรที่เรียกว่า capital gain กันแบบถึงน้ำถึงเนื้อกันเลยทีเดียว
กองทุนรวมหุ้นไทย LTF
ในส่วนของ 10 อันดับแรก %YTD Performance ของกอง LTF นั้น กองทุนของบลจ.กรุงศรี ติดอันดับ 4 กองทุนจาก 10
1. KFLTFA50-D – กองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นระยะยาวแอ็คทีฟ SET50 ปันผล +23% YTD
2. KFLTFEQ – กองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นระยะยาวอิควิตี้ +23% YTD
3. KFLTFTSM-D -กองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นระยะยาวไทยสมอล-มิดแคปปันผล +23% YTD
4. KFLTFDIV – กองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นระยะยาวปันผล +23% YTD
กองทุนรวมหุ้นไทย RMF
สุดท้ายสำหรับกองทุนรวมหุ้น RMF บลจ.กรุงศรีก็ยังสามารถทำ Performance ติดอันดับขึ้นมา 3 กองทุน
1. KFEQRMF – กองทุนเปิดกรุงศรีอิควิตี้เพื่อการเลี้ยงชีพ +22% YTD
2. KFDIVRMF – กองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นปันผลเพื่อการเลี้ยงชีพ +18% YTD
3. KFS100RMF -กองทุนเปิดกรุงศรี SET100 เพื่อการเลี้ยงชีพ +17% YTD
โดยสรุป
ปกติแล้วการเขียนนโยบายของแต่ละกองทุนจะระบุไว้ในภาพกว้างๆ เพื่อให้นักลงทุนรู้ว่ากองที่เขากำลังจะซื้อนั้น เน้นหุ้นในสัดส่วนกี่% และมีการลงทุนในสินทรัยพ์พิเศษอย่างอื่นหรือไม่ และนักลงทุน ส่วนใหญ่จะซื้อกองทุนด้วยเหตุผลอยากลดหย่อนภาษี หรือนำเงินก้อนของตัวเองไปฝากผู้เชี่ยวชาญลงทุนให้ได้ผลตอบแทนเพิ่มหากเราอยากติดตามประสิทธิภาพการดำเนินงานของแต่ละกอง เราสามารถเข้าไปดู Top 10 Holding ของแต่ละกองได้ แล้วค่อยไปดูที่ราคาหุ้นรายตัว แต่ข้อเสียของการลงทุนในกองทุนคือ รายงาน Top 10 Holding ของกองจะไม่ Update เพราะฉะนั้นเราก็จะ Monitor ได้เพียงคร่าวๆ เท่านั้น
และสุดท้ายข้อมูลที่น่าสนใจคือนอกจากที่กรุงศรีจะติดอันดับ กองทุนที่ Outperformed ในอันดับต้นๆดังที่ได้กล่าวมาแล้วก็ยังพบอีกว่า นักลงทุนนิยมใส่เงินเข้าไปในกองทุนของบลจ. กรุงศรีมากที่สุดด้วย (หากนับจากกองทุนที่เราได้คัดตามลำดับมานำเสนอในที่นี้) จะเห็นได้ชัดว่า กองทุนแบรนด์กรุงศรีสามารถเรียกำเม็ดเงินจากนักลงทุนไปได้อันดับต้นๆ เมื่อเทียบกับบลจ.อื่น
*หมายเหตุ ใช้ข้อมูลสรุป ณ สิ้นวัน วันที่ 16 ตุลาคม 2560